ป. 1/2526 เรื่อง การคำนวณค่าแห่งอาคารหรือโรงเรือนที่เจ้าของที่ดินได้รับกรรมสิทธิ์เป็น เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (5)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร
    • Dark
      Light

    ป. 1/2526 เรื่อง การคำนวณค่าแห่งอาคารหรือโรงเรือนที่เจ้าของที่ดินได้รับกรรมสิทธิ์เป็น เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (5)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร

    • Dark
      Light

    Article Summary

    คำสั่งกรมสรรพากร

    ที่ ป. 1/2526

    เรื่อง การคำนวณค่าแห่งอาคารหรือโรงเรือนที่เจ้าของที่ดินได้รับกรรมสิทธิ์เป็น เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (5)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร


    เพื่อให้เจ้าพนักงานสรรพากรถือเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับการคำนวณค่าแห่งอาคารหรือโรงเรือนที่ผู้ปลูกสร้างยกกรรมสิทธิ์ให้แก่เจ้าของที่ดินเมื่อสร้างเสร็จ เพื่อถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (5) (ก) แห่งประมวลรัษฎากร กรมสรรพากรมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้

    ข้อ 1 กรณีที่เจ้าของที่ดินทำสัญญาให้ผู้อื่นทำการปลูกสร้างอาคารหรือโรงเรือนบนที่ดินของตน โดยผู้ปลูกสร้างยกกรรมสิทธิ์ในอาคารหรือโรงเรือนที่ปลูกสร้างนั้นให้แก่เจ้าของที่ดินเมื่อสร้างเสร็จ และเจ้าของที่ดินตกลงให้ผู้ปลูกสร้างเช่า หรือให้เช่าช่วงอาคารหรือโรงเรือน หรือตกลงให้ผู้ปลูกสร้างจัดหาผู้เช่าอาคารหรือโรงเรือนนั้นโดยตรงจากเจ้าของที่ดินเป็นการตอบแทนภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้คำนวณค่าแห่งอาคารหรือโรงเรือนนั้นเป็นเงินได้พึงประเมินของเจ้าของที่ดินตามจำนวนปีแห่งอายุการเช่าในอัตราร้อยละของมูลค่าอาคารหรือโรงเรือนในวันที่ได้รับกรรมสิทธิ์ดังต่อไปนี้

    จำนวนปีแห่งอายุการเช่า
    อัตราร้อยละของมูลค่าอาคารฯ
    1 ปี
    95.0
    2 ปี
    90.2
    3 ปี
    85.7
    4 ปี
    81.4
    5 ปี
    77.4
    6 ปี
    73.5
    7 ปี
    69.8
    8 ปี
    66.3
    9 ปี
    63
    10 ปี
    59.9
    11 ปี
    56.9
    12 ปี
    54
    13 ปี
    51.3
    14 ปี
    48.8
    15 ปี
    46.4
    16 ปี
    44.0
    17 ปี
    41.8
    18 ปี
    39.7
    19 ปี
    37.7
    20 ปีขึ้นไป
    35.8

    คำว่า “มูลค่าอาคารหรือโรงเรือน” หมายความว่า ราคาหรือค่าอันพึงมีในวันที่ได้รับอาคารหรือโรงเรือนนั้น ตามมาตรา 9 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร และเพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บภาษีเงินได้ในกรณีดังกล่าว ราคาหรือค่าอันพึงมีในวันที่ได้รับอาคารหรือโรงเรือนนั้นให้ถือราคาทุนที่แท้จริงของอาคารหรือโรงเรือนในวันที่ได้รับกรรมสิทธิ์

    ตัวอย่าง มูลค่าอาคารหรือโรงเรือนในวันที่เจ้าของที่ดินได้รับกรรมสิทธิ์เป็นเงิน 1,000,000 บาท และมีอายุสัญญาเช่า 12 ปี เงินได้พึงประเมินของเจ้าของที่ดินจะเป็นเงิน 540,000 บาท (1,000,000 x 54.0/100 )

    ”มูลค่าอาคารหรือโรงเรือนดังกล่าว เป็นมูลค่าที่ได้หักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาตามจำนวนปีแห่งอายุการเช่าแล้ว จะนำมาหักเป็นค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาในการคำนวณภาษีเงินได้สำหรับกรณีดังกล่าวซ้ำอีกไม่ได้”

    ข้อ 2 ให้นำเงินได้พึงประเมินที่คำนวณได้ตามข้อ 1 มาเฉลี่ยตามส่วนแห่งจำนวนปีของอายุการเช่าในการคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องผู้มีเงินได้จากการให้เช่าทรัพย์สินไม่ยื่นรายการเงินได้ให้ครบถ้วนลงวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2499 ได้ โดยให้เจ้าของที่ดินยื่นรายการขอชำระภาษีเงินได้สำหรับเงินได้พึงประเมินที่เฉลี่ยได้เป็นรายปีของอายุการเช่าเป็นการล่วงหน้าให้เสร็จสิ้นไปในปีที่ได้รับกรรมสิทธิ์ในอาคารหรือโรงเรือนนั้นตามมาตรา 52 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ในกรณีเจ้าของที่ดินมิได้ปฎิบัติตามนัยดังกล่าว ให้เจ้าพนักงานประเมินดำเนินการตรวจสอบและประเมินภาษีเงินได้สำหรับเงินได้พึงประเมินดังกล่าวตามมาตรา 18 ทวิ หรือมาตรา 60 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร

    ข้อ 3 ความในข้อ 1 และข้อ 2 มิให้ใช้บังคับในกรณีที่เจ้าของที่ดินเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล

    ข้อ 4 คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ที่ลงในคำสั่งนี้เป็นต้นไป แต่ทั้งนี้ไม่กระทบกระเทือนถึงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ได้เสียไว้แล้ว หรือที่เจ้าพนักงานประเมินได้ประเมินเรียกเก็บไปแล้ว สั่ง ณ วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2526


    สั่ง ณ วันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2527

    วิทย์ ตันตยกุล

    อธิบดีกรมสรรพากร