ขอลดเงินเพิ่ม อากรแสตมป์ กรณีขอลดเงินเพิ่มอากรแสตมป์
    • Dark
      Light

    ขอลดเงินเพิ่ม อากรแสตมป์ กรณีขอลดเงินเพิ่มอากรแสตมป์

    • Dark
      Light

    Article Summary

    เรื่อง อากรแสตมป์ กรณีขอลดเงินเพิ่มอากรแสตมป์


    ข้อเท็จจริง

    สำนักงานสรรพากรภาค แจ้งว่า บริษัทฯ ได้ยื่นคำร้องขอลดเงินเพิ่มอากรแสตมป์

    โดยมีข้อเท็จจริงดังนี้

    1. บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญารับจ้างกับการนิคมอุตสาหกรรม ค่าจ้างคิดเป็นร้อยละ 82 ของ

    รายได้ที่การนิคมฯ เรียกเก็บจากลูกค้าเป็นระยะเวลา 5 ปี ซึ่งบริษัทฯ จะต้องชำระอากรภายใน 15

    วัน หลังจากวันเซ็นสัญญา คือวันที่ 28 กันยายน 2543 แต่บริษัทฯ มิได้ดำเนินการติดอากรแสตมป์ตาม

    ประมวลรัษฎากรแต่อย่างใด ต่อมาเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2544 บริษัทฯ ได้ยื่นแบบ อ.ส.4 เพื่อชำระ

    อากรเป็นจำนวนเงิน 3,925,300 บาท และได้ยื่นคำร้องขอลดเงินเพิ่มอากรต่ออธิบดีกรมสรรพากร

    ให้เหลือเรียกเก็บร้อยละ 1 ต่อเดือน

    2. สำนักงานสรรพากรภาค เห็นว่า บริษัทฯ ได้ทำสัญญารับจ้างบริหารงานและให้บริการ

    สาธารณูปโภคกับการนิคมอุตสาหกรรม เข้าลักษณะเป็นตราสารที่ต้องปิดอากรแสตมป์ภายใน 15 วัน

    นับแต่วันต้องปิดแสตมป์บริบูรณ์ ตามมาตรา 113 แห่งประมวลรัษฎากร แต่เนื่องจากบริษัทฯ ได้ยื่น

    ตราสารเพื่อเสียอากร (อ.ส.4) เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2544 ซึ่งเป็นการยื่นเสียอากรเกินกำหนดเวลา

    15 วัน แต่ไม่เกิน 90 วันนับแต่วันต้องปิดแสตมป์บริบูรณ์ ทำให้บริษัทฯ ต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มอากรเป็น

    2 เท่าของจำนวนอากร แต่โดยเหตุที่บริษัทฯ ยินยอมชำระอากรด้วยตนเอง โดยมิได้ถูกประเมินประกอบ

    กับบริษัทฯ สำคัญผิดในข้อกฎหมาย และมิได้มีเจตนาที่จะหลบเลี่ยงอากรแต่อย่างใด กรณีจึงมีเหตุอันควร

    ลดเงินเพิ่มคงเหลือเรียกเก็บเพียงร้อยละ 1 ต่อเดือน หรือเศษของเดือนของเงินอากร ตามนัยข้อ 3

    วรรคท้าย ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 129 (พ.ศ. 2512) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วย

    อากรแสตมป์และอากรมหรสพ จึงส่งเรื่องให้กรมสรรพากรพิจารณา


    กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    กฎกระทรวง ฉบับที่ 129 (พ.ศ. 2512)ฯ

    แนววินิจฉัย

    อนุมัติให้บริษัทฯ เสียเงินเพิ่มอากรในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของ

    เงินอากรโดยเริ่มนับแต่วันที่ต้องปิดแสตมป์บริบูรณ์ ตามข้อ 3 วรรคสอง แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 129

    (พ.ศ. 2512)ฯ




    ที่มา:

    หนังสือข้อหารือกรมสรรพากร ที่ กค 0811/ก.329 ลงวันที่ 09 สิงหาคม 2544